Aviation & Other Project

“แคมปัสโพธาราม จะเน้นหลักสูตรเฉพาะทาง เช่น โลจิสติกส์การบิน , การจัดการโรงแรม เป็นต้น โดยเฟสแรกจะลงทุนด้านอาคารเรียนหลัก ซึ่งคาดว่าจะสามารถรองรับนักศึกษาได้ 500 คน ในช่วง 3-5 ปีแรก ก่อนที่จะขยายอาคารเรียนอื่นๆ เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการขยายหลักสูตร โดยแต่ละอาคารเรียนจะแบ่งเป็นคณะต่างๆ สถาบันฝึกอบรมด้านการบิน (Siam Aviation Center : SAC) ตำบลธรรมเสน อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี และอาคารโครนอส สาทร ทาวเวอร์ (Kronos Sathorn Tower) แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร เว็บไซต์วิทยาลัย คือ http://www.siamtechno.ac.th

วิทยาลัยเทคโนโลยีสยามเปิดดำเนินการในปีการศึกษา พ.ศ. 2549 ณ ที่ตั้งหลักเนื้อที่ 8 ไร่ 3 งาน 67 ตารางวา เริ่มเปิดหลักสูตรระดับปริญญาตรีทางด้านเทคโนโลยีและบริหารธุรกิจ ซึ่งตรงตามความต้องการของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมไทยในปัจจุบัน โดยมุ่งเน้นจัดการศึกษาให้มีความต่อเนื่องและเท่าเทียม เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นของสังคม และเป็นการเชื่อมต่อโลกแห่งการศึกษาเข้ากับโลกแห่งงานตามเจตนารมณ์ของอาจารย์ ดร.ณรงค์ มงคลวนิช ผู้ก่อตั้งที่สร้างมาตรฐานความเป็นผู้นำในการจัดการศึกษาด้านอาชีวศึกษาที่ถูกสานต่อความคิดจนสามารถสร้างผู้สำเร็จการศึกษาของวิทยาลัยเทคโนโลยีสยามเป็นนวัตกรรมบุคคลเพื่อประโยชน์ที่แท้จริงต่อสังคม

ในปี พ.ศ. 2560 วิทยาลัยเทคโนโลยีสยามได้มีการจัดตั้งสถาบันฝึกอบรมด้านการบิน (SAC) เป็นแหล่งเรียนรู้ภายนอกของวิทยาลัยเทคโนโลยีสยามที่จังหวัดราชบุรี เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาและพัฒนากำลังคนในเขตพื้นที่ภาคตะวันตกและบริเวณใกล้เคียง โดยเน้นการให้บริการองค์ความรู้สำหรับการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท รวมทั้งการฝึกอบรมวิชาชีพในด้านต่างๆ โดยเฉพาะในกรอบของอุตสาหกรรมการบิน และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยใช้หอบังคับการการบินและสนามบินขนาดความยาว 1,500 เมตร ซึ่งอยู่ในพื้นที่เป็นสนามฝึกปฏิบัติ และในปี พ.ศ. 2566 วิทยาลัยเทคโนโลยีสยามได้มีแผนในการจัดตั้งแหล่งเรียนรู้ภายนอกที่อาคาร โครนอส สาทร ทาวเวอร์ (Kronos Sathorn Tower) ถนนสาทร เพื่อเปิดโอกาสทางการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาในสาขาทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่ให้กับผู้ที่ทำงานในตัวเมืองและไม่ประสงค์เดินทางไกล นับเป็นการขยายโอกาสทางการศึกษาอย่างทั่วถึงเพื่อรองรับกลุ่มผู้ต้องการเรียนอย่างครบถ้วน

วิทยาลัยเทคโนโลยีสยามมุ่งเน้นพัฒนาความเป็นเลิศในสาขาความเชี่ยวชาญที่เน้นการปฏิบัติจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเทคโนโลยีและการสร้างนวัตกรรม ซึ่งเป็นด้านที่วิทยาลัยมีชื่อเสียงและมีความชำนาญสูงสุด โดยได้ต่อยอดความชำนาญดังกล่าวด้วยการเปิดโอกาสทางการศึกษาที่หลากหลายยิ่งขึ้น ปัจจุบันวิทยาลัยเทคโนโลยีสยามได้เปิดการเรียนการสอนรวม 7 คณะ ได้แก่ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี คณะบริหารธุรกิจ คณะการบริการและการท่องเที่ยว คณะรัฐประศาสนศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ คณะศึกษาศาสตร์ และคณะดิจิทัล (จัดตั้งเมื่อปีการศึกษา 2567) มีนักวิจัยและเครื่องมือพร้อมสำหรับการต่อยอดความรู้ไปสู่การสร้างนวัตกรรมและเครือข่ายการทำงานโดยใช้เทคโนโลยีเป็นฐาน

วิทยาลัยยังมีแผนที่จะเปิดหลักสูตรที่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน เช่น หลักสูตรการดูแลเด็กและผู้สูงวัย ฯลฯ ด้วยโดยที่ผ่านมาวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม จะเปิดรับนักเรียนที่จบในสายอาชีวศึกษา และต้องการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี โดยเน้นการเรียนการสอนด้านเทคโนโลยีเป็นหลัก แตกต่างจากมหาวิทยาลัยสยาม ที่มีหลักสูตรที่หลากหลายกว่า และเน้นการเรียนด้านทฤษฎีเป็นหลัก เช่น แพทยศาสตร์ ,วิทยาศาสตร์สุขภาพ เป็นต้น โดยปัจจุบันมหาวิทยาลัยสยาม มีนักศึกษาประมาณ 13,000 – 14,000 คน “ล่าสุดวิทยาลัย ได้ร่วมกับสมาพันธ์ผู้ผลิตเบเกอรี่แห่งประเทศเยอรมนี ลงนามข้อตกลงร่วมกันพัฒนาหลักสูตรเบเกอรี่ ระดับปริญญาตรีครั้งแรกในเมืองไทย ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดทำการเรียนการสอนได้ในปีการศึกษาหน้า โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสั่งซื้ออุปกรณ์ และตกแต่งห้องแล็บ ซึ่งทุกอย่างต้องนำเข้าจากประเทศเยอรมนี คาดว่าจะใช้งบลงทุน 15-20 ล้านบาท โดยผู้เรียนจะได้มีโอกาสไปฝึกงาน ดูงานกับผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกสมาพันธ์ ในประเทศเยอรมนี ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตผู้ประกอบอาหารขนมอบ หรือเบเกอรี่ จะเป็นที่ต้องการสูง เนื่องจากธุรกิจขนมอบหรือเบเกอรี่ มีการเติบโตต่อเนื่อง”